
แมวต้องการ “น้ำ” ปริมาณเท่าไหร่
Water
เป็นตัวช่วยในการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย เป็นส่วนสำคัญในการควบคุมอุณหภูมิให้กับร่างกาย เป็นส่วนสำคัญของน้ำหล่อลื่นภายในข้อต่อต่างๆ เป็นตัวเพิ่มความชุ่มชื้นในระบบทางเดินหายใจ เป็นตัวช่วยในการควบคุมสมดุลกรดเบสในร่างกาย เป็นต้น
ฉะนั้นแล้วน้ำจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในแต่ละวัน เมื่อร่างกายเริ่มขาดน้ำหรือได้รับน้ำในปริมาณที่ไม่เพียงพอ เราจะสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่สำคัญได้ โดยเฉพาะการขาดความยืดหยุ่นของผิวหนัง ขนชี้ฟูยุ่งเหยิงและหยาบกระด้าง เบ้าตาลึก จมูกและปากแห้ง ซึม เบื่ออาหาร
ความต้องการน้ำของแมวมีปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องหลายอย่าง เช่น
ขนาดของร่างกาย แมวที่ตัวโตจะมีความต้องการน้ำในปริมาณที่มากกว่าแมวที่ตัวเล็กกว่า
อายุและสภาวะร่างกาย เช่น ร่างกายจะมีความต้องการน้ำเพิ่มมากขึ้นเพื่อใช้ในการสร้างน้ำนมในช่วงระหว่างที่มีการให้นมลูก
อุณหภูมิสิ่งแวดล้อม อากาศที่ร้อนจะทำให้ร่างกายมีความต้องการน้ำมากขึ้น
อาหารที่กิน อาหารเม็ดมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่ประมาณ 10% จึงทำให้แมวมีความต้องการกินน้ำในปริมาณที่มากกว่าการกินอาหารกระป๋อง หรือ อาหารแบบซอง ซึ่งมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 80%
ความเครียดและภาวะเจ็บป่วยไม่ว่าความเครียดนั้นจะเกิดจากปัจจัยใดก็ตามย่อมที่จะมีผลโดยตรงต่อการกินน้ำ และภาวะเจ็บป่วยมักทำให้แมวกินน้ำน้อยลง แต่อย่างไรก็ตามพบว่าโรคบางโรคกลับทำให้แมวกินน้ำมากขึ้นกว่าปกติ เช่น โรคเบาหวาน เป็นต้น
ดังนั้นแล้ว ความต้องการน้ำของแมวแต่ละตัวจึงมีความแตกต่างกันไปตามลักษณะของการเลี้ยงดูเป็นสำคัญ และเมื่อเปรียบเทียบปริมาณน้ำที่แมวควรได้รับกับอาหารที่กินแล้ว พบว่าแมวควรได้รับน้ำอยู่ที่ 1.5-2 ซีซี ต่อ อาหารแห้ง 1 กรัม หรือคิดเป็นปริมาณน้ำ 0.5 ซีซี ต่อ พลังงาน 1 กิโลแคลอรี
“มีแมวต้องมีโอ มีแมวต้องมีน้ำ”
“อย่าลืม ! ” ที่จะเปลี่ยนน้ำบ่อยครั้ง ใช้น้ำที่สะอาด ใส่น้ำในภาชนะที่เหมาะสม วางน้ำไว้ในหลายๆ จุดที่สะดวกต่อการกินของแมว และที่สำคัญไม่ควรวางไว้ใกล้กับกระบะทรายหรือที่ขับถ่าย