
ก่อนเลี้ยงต้องรู้ หนูแฮมสเตอร์กินอะไรได้บ้าง
หนูแฮมสเตอร์กินอะไรได้บ้าง ไปดูกันเลย!
หนูแฮมสเตอร์เป็นสัตว์ขนาดเล็ก ที่กินเก่งมาก ๆ หากบ้านไหนวางอาหารใส่ถ้วยไว้ ก็จะเห็นว่าเจ้าแฮมสเตอร์ก็จะนั่งกินทั้งวัน ไปทำกิจกรรมอื่นได้พักนึงก็กลับมากินอีก ซึ่งปัญหานี้อาจส่งผลกระทบต่อเจ้าหนูตัวจิ๋วได้ ดังนั้นควรเลือกอาหารที่มีความเหมาะสม ไปดูกันว่าหนูแฮมสเตอร์กินอะไรได้บ้าง
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแฮมสเตอร์ เจ้าหนูตัวเล็ก
หนูแฮมสเตอร์เป็นหนูตัวเล็ก ๆ ซึ่งได้ชื่อว่า แฮมสเตอร์ เพราะคำว่าแฮมสเตอร์มาจากภาษาเยอรมันที่แปลว่า กระพุ้งแก้ม ซึ่งถูกตั้งตามลักษณะนิสัยที่ชอบเก็บอาหารไว้ที่กระพุ้งแก้มจนแก้มตุ่ยนั่นเอง สำหรับแฮมสเตอร์เป็นหนูตัวเล็กขนปุกปุยที่พบครั้งแรกในทะเลทรายประเทศซีเรีย
การเลือกอาหารหนูให้มีความเหมาะสม
หนูแฮมสเตอร์นั้นเป็นสัตว์ขนาดเล็ก ที่มีนิสัยกินจุ ชอบกิน หากคุณวางอาหารใส่ถ้วยไว้ให้ในกรง เจ้าหนูก็จะกินได้เรื่อย ๆ ตลอดทั้งวัน ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ ดังนั้นการเลือกอาหารให้แฮมสเตอร์จึงมีความสำคัญ ควรเลือกอาหารให้มีความสมดุล มีโภชนาการที่สูง เหมาะกับแฮมสเตอร์ โดยเลือกอาหารเม็ด 80% และผักผลไม้สด 20% เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
หนูแฮมสเตอร์กินอะไรได้บ้าง
การเลือกอาหารให้หนูแฮมสเตอร์นั้น ควรเลือกอาหารที่อุมดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีความจำเป็น เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต ไปดูกันว่าหนูแฮมสเตอร์กินอะไรได้บ้าง เพื่อที่จะได้เลือกอาหารได้อย่างเหมาะสม
ผักและผลไม้สด
ผักและผลไม้สดเป็นอาหารที่แฮมสเตอร์ชื่นชอบ แต่ไม่ควรให้ไม่เกิน 20% ของปริมาณอาหารต่อวัน ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว และหวานมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาโรคอ้วนได้ง่าย และก่อนให้ควรมีการล้างให้สะอาด พร้อมทั้งหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เตรียมให้พร้อม เพื่อให้กินง่าย แต่หากหนูแฮมสเตอร์กินแล้วเหลือควรเก็บทิ้งในทุก ๆ วัน เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารเน่าเสีย ซึ่งอาหารสดที่แฮมสเตอร์ชอบมีด้วยกันหลายชนิด เช่น ผักโขม แตงกวา แคร์รอต กล้วย เบอร์รี และเมล่อน
อาหารสำเร็จรูป
อาหารสำเร็จรูปเป็นอาหารที่มีความเหมาะสมกับแฮมสเตอร์ที่สุด เพราะอาหารสำเร็จรูปนั้นได้มีการคำนวณสัดส่วนสารอาหารที่มีความเหมาะสมกับแฮมสเตอร์ไว้แล้ว อีกทั้งยังเป็นการป้องกันแฮเตอร์เลือกกินได้อีกด้วย จึงควรใช้เป็นอาหารหลักที่ให้แฮมสเตอร์ในแต่ละวัน แต่ก็ควรเปลี่ยนเป็นอาหารสด หรือขนมแฮมสเตอร์บ้าง เพื่อป้องกันแฮมสเตอร์เบื่ออาหาร
ธัญพืช
แฮมสเตอร์เจ้าหนูตัวเล็กที่มักจะเลือกกินเฉพาะอาหารที่ตัวเองชอบเท่านั้น ทำให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่มีความหลากหลาย ดังนั้นคุณควรเลือกอาหารแบบผสมที่มีทั้งเมล็ดพืช ผลไม้แห้ง และธัญพืชผสมกัน หากหนูแฮมสเตอร์ยังเลือกกินเฉพาะอาหารที่ตัวเองชอบ ก็ไม่ควรเทอาหารให้ใหม่ จนกว่าอาหารเดิมจะหมด เพื่อป้องกันหนูแฮมสเตอร์เลือกกิน ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้เขาได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน
ขนมแฮมสเตอร์
นอกจากอาหารสำเร็จรูป อาหารสด และธัญพืชต่าง ๆ ที่ให้แฮมสเตอร์เป็นประจำแล้ว การให้ถั่วลิสง ซีเรียลโฮลวีท เส้นพาสต้าต้ม หรือเนยถั่วบ้างเป็นครั้งคราว ก็จะช่วยให้หนูแฮมสเตอร์นั้นกินอาหารได้มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามควรให้เฉพาะในโอกาสพิเศษเท่านั้น
อาหารที่ “ห้าม” ให้แฮมสเตอร์กินเด็ดขาด
นอกจากอาหารต่าง ๆ ที่แฮมสเตอร์สามารถกินได้ และดีต่อสุขภาพแล้ว แต่ก็มีอาหารบางชนิดที่ควรหลีกเลี่ยง อาทิ ถั่วดิบ ขนมหวาน หรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เพราะอาหารเหล่านี้ อันตรายต่อหนูแฮมสเตอร์ หากกินเข้าไปมาก ๆ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้
FAQ คำถามน่ารู้เกี่ยวกับหนูแฮมสเตอร์กินอะไรได้บ้าง
หลายคนคงทราบแล้วว่าหนูแฮมสเตอร์กินอะไรได้บ้าง และกินอะไรไม่ได้บ้าง แต่ก็อาจจะยังมีคำถามเกี่ยวกับโภชนาการของหนูแฮมสเตอร์ที่ยังสงสัย ซึ่งเราได้รวบรวมเพื่อมาตอบคำถามกันให้แล้ว
หนูแฮมสเตอร์กินอะไรถึงจะอ้วน
หนูแฮมสเตอร์เป็นสัตว์ที่กินเก่ง จึงทำให้อ้วนง่าย กินอะไรก็อ้วน ดังนั้นควรควบคุมปริมาณอาหาร ให้มีความพอดี เพื่อป้องกันการเกิดโรคอ้วนในหนูแฮมสเตอร์
แฮมสเตอร์กินผักอะไรได้บ้าง
แฮมสเตอร์กินผักได้หลายชนิด เช่น ผักสลัด ผักกาดแก้ว ผักกาดขาว ผักกวางตุ้ง ผักโขม แตงกวา และแครอท
แฮมสเตอร์ห้ามกินอะไร
อาหารที่แฮมสเตอร์ห้ามกินเด็ดขาดคือเมล็ดแอปเปิ้ล เพราะมีพิษ รวมถึงถั่วดิบ เมล็ดอัลมอนด์ รวมถึงอาหารที่มีรสเปรี้ยวและหวานเกินไป เพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ผลไม้อะไรบ้างที่หนูแฮมสเตอร์กินได้
หนูแฮมสเตอร์นั้นชอบผลไม้สดมาก ๆ เช่น กล้วย แอปเปิล องุ่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี และเมล่อน แต่ควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยว ที่สำคัญควรให้ในปริมาณที่พอดี เพราะผลไม้มีปริมาณน้ำตาลมาก หากได้รับมากเกินไป อาจทำให้น้ำหนักเกิน จนเป็นโรคอ้วนได้
แฮมสเตอร์กินแครอทได้ไหม
แฮมสเตอร์สามารถกิน แครอทได้
สรุป
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงได้คำตอบกันไปแล้วว่าหนูแฮมสเตอร์กินอะไรได้บ้าง และกินอะไรไม่ได้ ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงควรจัดโภชนาการให้มีความเหมาะสม โดยเน้นที่อาหารสำเร็จรูป 80% และให้อาหารสดอีก 20% เพื่อสุขภาพที่ดีกับแฮมสเตอร์ ที่สำคัญควรเลือกอาหารหนูแฮมสเตอร์ที่มีสารอาหารครบถ้วน และเลือกซื้อในร้านที่มีความเชื่อถือ เพื่อให้ได้อาหารที่มีคุณภาพ